PDT


  Photodynamic Therapy (PDT)

นวัตกรรมใหม่ใช้คลื่นแสงสีน้ำเงิน -  แสงสีแดง เพื่อรักษาและป้องกันสิว สิวหน้าแดง ปรับสภาพสีผิว  ลดเลือนริ้วรอย

ชะลอยืดอายุเซลล์ผิว

 


 

Photodynamic Therapy (PDT) ใช้นวัตกรรมอะไร

PDT เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้แสงความถี่แคบ (Narrowband Light) จาก Light Emitting Diodes (LEDs) โดยที่แสงจะไปกระตุ้นการออกฤทธิ์ของสารละลายชนิดพิเศษ Amino Levolunic Acid (ALA) ที่ทาลงบนผิว เป็นการเร่งปฎิกิริยาเคมี แสงที่ใช้ในการกระตุ้นได้แก่ แสงสีน้ำเงิน และแสงสีแดง

 

Photodynamic Therapy (PDT) เป็นวิธีการรักษาที่ใช้ 3 สิ่งสำคัญ คือ สารไวต่อแสง (Photosensitizing drug), แสง (Light source),ออกซิเจน (Oxygen) ซึ่งสารไวแสงจะสามารถซึมผ่านเฉพาะเซลล์ที่ผิดปกติไปจับบริเวณต่อมไขมันและเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และสลายจากเนื้อเยื่อปกติได้เร็ว ในกรณีของสิวในรูปแบบ สิวอักเสบและสิวซีสต์ เมื่อทา ALA บนหน้าทิ้งไว้แล้ว ตามด้วยการยิงแสง ผลที่ได้สามารถลดจำนวนสิวที่เกิดขึ้น รวมถึงลดความมันบนใบหน้าและกระชับรูขุมขน

แสงที่ใช้มี 2 แบบ คือ

แสงสีน้ำเงิน (Blue light) ใช้รักษาต้นเหตุของการเกิดสิวและยังป้องกันสิว ลดความมันบนใบหน้า รูขุมขนกระชับ

แสงสีแดง (Red light) ใช้รักษากระ ฝ้า หรือผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging) ผิวหน้าใส เรียบเนียนขึ้น (Skin Rejevenation)

แสงสีน้ำเงิน (Blue light) รักษาและป้องกันสิวโดยการฉายแสงสีน้ำเงินได้ผลมากกว่าซึ่งจะฆ่าแบคทีเรีย P. acne ต้นเหตุของการเกิดสิว   ลดสิวอักเสบและลดรอยแดงจากสิว โดยแบคทีเรียจะดูดกลืนแสงสีน้ำเงิน   (Blue light) ความยาวคลื่น 415 nm แล้วเกิดขบวนการPhotosensitize กับ Porphyrin ซึ่งมีเฉพาะในแบคทีเรีย ได้อนุมูลอิสระของออกซิเจนทำลายผนังเซลล์แบคทีเรีย อีกทั้งช่วยลดการทำงานต่อมไขมันบนใบหน้า ต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า 98% โดยความเข้มแสงที่เหมาะสม 126 J/cm2 จะช่วยลดรอยแดงพร้อมทั้งลดการอักเสบของสิวได้มากถึง  81% อีกทั้งช่วยกระตุ้นขบวนการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ผิว โดยจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แก้ไขปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น  83%      

 

 

จะเห็นว่า PDT ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน เมื่อต่อมไขมันลดการผลิตน้ำมันลง ความมันบนผิวก็จะลดลง การอุดตันของไขมันในรูขุมขนลดลง ดังนั้นการเกิดสิวก็ลดลงตามไปด้วย และยังช่วยกระชับรูขุมขน

แสงสีแดง (Red light) ใช้รักษากระ ฝ้า หรือผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ (Anti-Aging) เนื่องจากแสงสีแดงช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนซึ่งจะเห็นผลได้ในระยะยาว นอกจากนี้แล้ว PDT ยังช่วยในการปรับสภาพสีผิว ลดความหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำจากกระ ฝ้า   รอยแดงสิว และผิวไหม้จากแสงอาทิตย์ ทำให้หน้าใสเรียบเนียนขึ้น (Skin Rejuvenation)

 

PDT มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

§  สิวอุดตันและสิวอักเสบลดลง

§  รอยแดงและรอยดำจากสิวลดลง

§  ลดความมันบนใบหน้า   รูขุมขนกระชับ

§  ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ

§  ทำให้ผิวหน้าใสขึ้น ผิวเนียนเรียบ

 

ผู้ที่เหมาะจะทำการรักษาด้วย PDT

เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบสิวอุดตันจำนวนมากและผิวหน้ามัน หรือผู้ที่สิวหายยากเนื่องจากมีการดื้อยา เนื่องจาก PDT ควบคุมการเกิดสิว เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาสิว เห็นผลการรักษาเร็วและผลการตอบสนองต่อการรักษาดีด้วยการใช้แสงสีน้ำเงิน

นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ปรับสภาพสีผิวอันเนื่องมาจากกระ ฝ้า เพื่อผิวหน้าใส เรียบเนียนขึ้น แสงสีแดงใช้ได้ผลดี

 

 

 

ตอนทำการรักษาเจ็บหรือไม่

เครื่องฉายแสงนี้ไม่ใช่เลเซอร์ หรือ IPL ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาเพราะไม่เจ็บปวดขณะทำการฉายแสง แสงจะส่องผิวในระยะห่างประมาน 1 ฟุต ผู้รับการรักษาจะรู้สึกอุ่นสบายผิวไม่แสบร้อน และทางคลินิกจะทาเจลเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ลดระคายเคืองผิวขณะฉายแสง

 

มีผลข้างเคียงจากการฉายแสง Blue Light หรือไม่ ?

โดยปกติแล้วการทำการรักษาด้วย Blue light แสงที่ออกมาจะทำปฏิกิริยาเฉพาะกับแบคทีเรียเท่านั้น ซึ่งจะปลอดภัยไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆ ในบางรายอาจพบว่ามีอาการบวมหรือแดงในระยะแรกแต่สามารถหายได้เองภายใน 1 ชั่วโมง  ต่อมาจะแห้งและหลุดลอกออกใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

ระยะเวลาในการรักษา

การรักษาใช้เวลาเพียง 30-45 นาที  จะเห็นผลการรักษาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 2 สัปดาห์ ควรเข้ามารับการรักษาต่อเนื่อง 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เมื่อรับการรักษาต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไป สิวอักเสบค่อยๆ ยุบตัวลง ใบหน้ามีความมันน้อยลง สิวเริ่มลดปริมาณลง

ต้องใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ร่วมกับการรักษาหรือไม่

ควรรักษาร่วมยารักษาสิว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามคำแนะนำ ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาสิวอย่างเห็นได้ชัดและรวดเร็วเมื่อเห็นผลการรักษาในระดับที่พึงพอใจแล้ว ควรดูแลอย่างไรเพื่อคงสภาพผลการรักษาไว้  ควรควบคุมสิวทีจะเกิดขึ้นใหม่ ด้วยการทายาควบคุม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาปราศจากสิวที่จะเกิดขึ้นใหม่ และควรจะเข้ามาพบแพทย์ทุกๆ 1 เดือน

 

หลังการทำ PDT ต้องดูแลผิวอย่างไร

หลังทำการรักษาต้องเลี่ยงแดดจัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ เช่นการตีกอล์ฟ การอาบแดด หรือไปเที่ยวทะเล