ลมพิษ


  สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับลมพิษ

 
ขึ้นชื่อว่า “ลมพิษ” ทุกคนก็มักรู้จักกันดี เพราะเป็นโรคที่พบได้เสมอและผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็เคยเป็นลมพิษมาบ้างแล้ว มีคนเคยกล่าวว่า ทุกคนที่เกิดมามักจะต้องเคยเป็นลมพิษในช่วงชีวิตหนึ่ง ลมพิษนี้ก็เป็นปฏิกิริยาของเส้นเลือดในผิวหนังนั่นเองที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทำให้มีลักษณะเฉพาะคือ มีผื่นแดง นูนขอบชัดเจน ขอบอาจจะหยักนูนและมีอาการคันมาก บางคนขึ้นแต่เพียงบางแห่งของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักจะขึ้นทั้งตัว บางคนเป็นชั่วระยะเวลาสั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือเพียงเป็นวัน แต่บางคนลมพิษก็อาจจะขึ้นทุกวันเวลานานเป็นปีๆ ก็ได้ซึ่งเรียกว่า “ลมพิษชนิดเรื้อรัง” ลมพิษมิได้จะเกิดแต่ในผู้ใหญ่เท่านั้น แม้แต่เด็กเล็กๆ ก็อาจเกิดลมพิษได้เช่นเดียวกัน
 
 
สาเหตุของลมพิษมากมาย อาจเกิดจากการแพ้สารบางชนิดจากการรับประทาน จากการสัมผัส จากการสูด หรือจากการถูกฉีดเข้าไปก็ได้ ลมพิษบางชนิดก็ไม่ได้เกิดจากการแพ้ แต่อาจเกิดร่วมกับโรคบางชนิดได้ เป็นต้น สาเหตุที่สำคัญของลมพิษแบ่งได้คือ
 
อาหาร
การแพ้อาหารเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุด อาหารที่เป็นสาเหตุมักเป็นอาหารพวกโปรตีน โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลา หอย นอกจากนั้น ไข่ ถั่ว นม หรือแม้แต่ผลไม้ก็อาจก่อให้เกิดลมพิษได้ ผู้ป่วยบางรายอาจสังเกตพบสาเหตุได้ง่าย เช่น ในการรับประทานกุ้งแล้วเกิดลมพิษ ซึ่งในบางครั้งผู้ป่วยไม่ได้สังเกตถึงรายละเอียดของอาหารว่า มีส่วนประกอบของกะปิ หรือกุ้งแห้ง ดังนั้นจึงควรสังเกตโดยละเอียด หรือในเด็กที่แพ้นมแล้วเกิดลมพิษอาจเกิดอาการ เมื่อเด็กรับประทานไอศกรีม หรือขนม เป็นต้น
 
นอกจากอาหารต่างๆ แล้วสารปรุงแต่งอาหาร หรือขนม เช่น สีต่างๆ โดยเฉพาะสีเหลือง หรือสีเขียว มักใช้สีประเภท Tartrazine ซึ่งพบในพวกซาหริ่ม ขนมด้วง ฟักเชื่อม ชาจีน ถั่วกวน สารที่เป็นสีตัวนี้คนแพ้ได้ง่าย และอาจเป็นสาเหตุของลมพิษได้ จึงควรให้ความสนใจและสังเกตให้ละเอียด ผักและผลไม้บางอย่างมีสารประเภท Salicylate ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดลมพิษได้ เช่น แอปเปิ้ล แตงกวา มันฝรั่ง มะเขือเทศ มะนาว พริกไทย ส้ม เป็นต้น นอกจากนั้นอาหารและเครื่องดื่มที่มียีสต์ เช่น ขนมปัง เหล้า เบียร์ ก็เป็นสาเหตุที่สำคัญ
จะเห็นว่าอาหารมีมากมายหลายชนิดที่อาจก่อให้เกิดลมพิษได้ จึงควรให้ข้อสังเกตในอาหารดังกล่าวด้วย
 
ยา
ยาเป็นสาเหตุที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของลมพิษ ลมพิษอาจเกิดทันทีทันใดภายหลังได้รับยาชนิดนั้น เช่น การฉีดหรือรับประทาน ซึ่งจะสังเกตได้ง่าย แต่บางรายอาจกินเวลานานเป็นเวลา 7-10 วัน ซึ่งอาจทำให้สังเกตได้ยาก ยาที่สำคัญได้แก่ ยาประเภทปฏิชีวนะ โดยเฉพาะพวกเพนิซิลลิน ซัลฟา นอกจากนั้น ยาแก้ปวด ยานอนหลับ สารทึบแสงที่ใช้ในการตรวจทางเอกซเรย์ หรือวิตามินก็อาจทำให้เกิดลมพิษ
 
โรคติดเชื้อ
โรคติดเชื้อสามารถก่อให้เกิดลมพิษได้เช่นกัน โดยเฉพาะในวัยเด็กพบพยาธิในลำไส้เป็นสาเหตุได้บ่อย เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิตัวแบน เชื้อบิด นอกจากนี้การติดเชื้อในส่วนอื่นของร่างกาย เช่น เชื้อราในช่องคลอด พบเป็นสาเหตุลมพิษในวัยผู้ใหญ่เสมอ ฟันผุก็อาจเป็นสาเหตุของลมพิษได้ การรักษาหรือถอนฟันผุออก ก็ทำให้อาการลมพิษหายไปในผู้ป่วยบางราย
 
แมลง
แมลงอาจก่อให้เกิดลมพิษได้ ทั้งจากการสัมผัส การกัด เช่น ไรแมว ไรสุนัข ไรนก ริ้น ตัวผึ้ง บุ้ง หรือจากการต่อย เช่น ผึ้ง ต่อ แตน หมาร่า มดแดงไฟ มดตะนอย ซึ่งบางครั้งอาการรุนแรงมาก มีลมพิษ มีการบวมทั้งตัวหรือผู้ป่วยช็อก บางรายอาจเสียชีวิตในเวลาอันสั้น ภายหลังถูกต้อง
 
สารในอากาศ
ผู้ป่วยบางราย แพ้สารในบรรยากาศอาจก่อให้เกิดลมพิษได้ เช่น ฝุ่นบ้าน เชื้อราในอากาศ เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เมื่อสูดสารเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาจก่อให้เกิดลมพิษ
 
ความเย็น
ผู้ป่วยบางรายแพ้ความเย็นจัดทำให้เกิดลมพิษ เช่น เวลาถูกอากาศเย็น อาบน้ำเย็น ผู้ป่วยบางรายรับประทานน้ำแข็งเกิดอาการบวมในบริเวณคอ หายใจลำบากได้ พวกนี้อาจเกิดเป็นกรรมพันธุ์ หรือเกิดเองโดยไม่มีสาเหตุก็ได้ หรือเกิดเป็นผลจากมีโรคในร่างกายได้ เช่น ซิฟิลิส หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
 
แสงแดด
ผู้ป่วยบางรายเกิดลมพิษเมื่อถูกแสงแดดบางช่วงของวัน ซึ่งมีความยาวของคลื่นแสงเฉพาะ พบในหญิงมากกว่าชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอายุ 30-40 ปี เมื่อถูกแสงแดดแล้วเกิดผื่นคันขึ้นมา อาจแก้ไขโดยการหลีกเลี่ยงไม่พบแสงแดด หรือใช้ยาทากันแสงแดด
 
ลมพิษภายหลังการออกกำลังกายหรือมีเหงื่อ
คนบางคนเกิดลมพิษภายหลังออกกำลังกายมาก หรือเหงื่อออกมากลมพิษชนิดนี้มักเป็นเม็ดเล็กเกิดบริเวณ แขน ขา มากกว่าลำตัว
 
 
 
สาเหตุทางจิตใจ
ในบางรายเกิดลมพิษภายหลังมีอารมณ์ผิดปกติ ภายหลังมีความโกรธ เครียด กังวล มักเป็นลมพิษชนิดเรื้อรัง
 
สาเหตุจากแรงขูดบนผิวหนัง
ผู้ป่วยบางรายมีผิวหนังไวต่อรอยขูดข่วนบนผิวหนัง ทำให้เกิดรอยนูน คันตามบริเวณที่ถูกรอยข่วนขูด ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีทำให้คัน และเกา ยิ่งเกาก็ยิ่งมีรอย และคันมากขึ้น
 
สาเหตุจากโรคอื่นๆ
โรคบางอย่างทำให้ผู้ป่วยเกิดลมพิษร่วมได้ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ลมพิษมีสาเหตุมากมาย ตั้งแต่ไม่รุนแรง เช่น การแพ้อาหาร ไปจนถึงอาจเป็นอาการร่วมของโรคร้ายบางอย่าง โดยทั่วไปลมพิษจะไม่รุนแรง และอาจหายเองเมื่อสารที่ก่อให้แพ้นั้นถูกกำจัดออกจากร่างกาย แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังก็น่าจะได้รับการตรวจโดยละเอียด ในการหาสาเหตุและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป แพทย์จะซักประวัติโดยละเอียด การตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ หรือตรวจสารเคมีในเลือด บางรายอาจต้องทำการทดสอบผิวหนัง ด้วยการรักษานั้นหากเกิดจากการแพ้สารบางสิ่งบางอย่าง การใช้ยาแก้แพ้มักรักษาให้หายได้ง่าย ยาทา เช่น คาลาไมน์ โลชั่น จะช่วยลดอาการคันลงได้ แต่หากเป็นเรื้อรังควรได้รับการตรวจอย่างละเอียดต่อไป
 
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยตรงจาก
แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ
 
 
ราม2 เอ็ม.ดี สหคลินิก โทร. 0-2397-7045
สำโรงคลินิก โทร 0-2394-4907, 0-2384-0974
 
รักษาสิว ฝ้า กระ – โรคผิวหนังทุกชนิด - ฉีด BOTOX –  FILLER – จี้ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ หูดด้วยเลเซอร์ CO2 – ทรีทเม้นท์หน้าใส ผิวขาวใส เรียบเนียน – ลดริ้วรอย – ลดความอ้วน – ฟื้นฟูสภาพเส้นผม ผมร่วง –ตรวจโรคทั่วไป - โรคภูมิแพ้ – รักษาโรคทางทันตกรรม จัดฟัน ฟอกฟันขาวด้วยระบบ Cold Light
ลมพิษ
 
 
 
ปรึกษาและตรวจสถาพผิวหนังฟรี
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง